[kofi]

Apple เปิดตัว iPhone 17 พร้อม iPhone Air ใหม่! ประจำปี 2025!

Apple เปิดตัว iPhone Air ใหม่: ดีไซน์บางเฉียบ ประสิทธิภาพระดับโปร และนวัตกรรมที่น่าทึ่ง

Apple iPhone Air hero 250909 big.jpg.large

iPhone Air คือ iPhone รุ่นใหม่ที่ทรงพลัง มาพร้อมดีไซน์บางและเบาอย่างไม่น่าเชื่อ ทนทานกว่าทุกรุ่นที่เคยมีมา พร้อมประสบการณ์กล้องสุดล้ำ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันอย่างน่าทึ่ง

คูเปอร์ติโน, แคลิฟอร์เนีย — วันนี้ Apple ได้เปิดตัว iPhone Air ใหม่หมดจด ซึ่งเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมประสิทธิภาพระดับโปร iPhone Air โดดเด่นด้วยดีไซน์ไทเทเนียมที่ปฏิวัติวงการ ทั้งหรูหรา เบา และแข็งแกร่ง พร้อมสถาปัตยกรรมภายในสุดล้ำที่มอบประสบการณ์ iPhone ล่าสุด ด้านหลังของ iPhone Air ได้รับการปกป้องด้วย Ceramic Shield เป็นครั้งแรก และกระจกด้านหน้าใช้ Ceramic Shield 2 ที่ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น 3 เท่า ทำให้ iPhone Air เป็น iPhone ที่ทนทานที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Apple iPhone Air color lineup 250909 big.jpg.large

นอกจากนี้ iPhone Air ยังมาพร้อมจอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว ที่สวยงามน่าทึ่ง พร้อมเทคโนโลยี ProMotion ที่ปรับอัตรารีเฟรชได้สูงสุดถึง 120Hz¹ ด้วยชิปที่ออกแบบโดย Apple มากที่สุดใน iPhone ไม่ว่าจะเป็นชิป A19 Pro อันทรงพลัง, N1 และ C1X ทำให้ iPhone Air เป็น iPhone ที่ประหยัดพลังงานที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา เมื่อรวมกับสถาปัตยกรรมภายในที่ออกแบบใหม่และการปรับแต่งซอฟต์แวร์ ทำให้ iPhone Air มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันอย่างน่าประทับใจ กล้องหลัก Fusion ความละเอียด 48MP อันทรงพลังให้คุณภาพเทียบเท่าเลนส์ 4 ตัว พร้อมคุณภาพของภาพที่น่าทึ่ง และกล้องหน้า Center Stage ความละเอียด 18MP สุดล้ำที่ยกระดับการถ่ายเซลฟี่ไปอีกขั้น

Apple iPhone Air family lineup 250909 big.jpg.large

iPhone Air จะวางจำหน่ายใน 4 สีสันสวยงาม ได้แก่ สีดำสเปซแบล็ก, สีขาวคลาวด์ไวท์, สีทองไลท์โกลด์ และสีฟ้าสกายบลู โดยจะเริ่มสั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 12 กันยายน และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 19 กันยายน

Apple iPhone Air profile 250909 big.jpg.large

“iPhone Air ใหม่หมดจดนั้นทรงพลัง แต่กลับบางและเบาอย่างไม่น่าเชื่อ จนคุณต้องลองสัมผัสด้วยตัวเองถึงจะเชื่อได้ว่ามันมีอยู่จริง การก้าวกระโดดครั้งใหญ่นี้ทั้งในด้านการออกแบบและวิศวกรรมเกิดขึ้นได้ด้วยนวัตกรรมของ Apple เท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Apple silicon” John Ternus, รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ของ Apple กล่าว “iPhone Air เป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูล iPhone ที่มอบฟีเจอร์ขั้นสูงที่ผู้ใช้จะต้องหลงรัก ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพระดับโปร, ระบบกล้อง Fusion 48MP ที่ใช้งานได้หลากหลาย, กล้องหน้า Center Stage สุดล้ำ และแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยมตลอดวัน ทั้งหมดนี้อยู่ในดีไซน์ที่ปฏิวัติวงการซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถืออนาคตไว้ในมือ”

ดีไซน์ที่ปฏิวัติวงการ

ด้วยดีไซน์ที่บางเฉียบและประสิทธิภาพระดับโปร iPhone Air จึงเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยความหนาเพียง 5.6 มม. และเบาอย่างเหลือเชื่อ มาพร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่สวยงาม กรอบไทเทเนียมเกรด 5 มีความแข็งแรงพร้อมผิวเคลือบเงางามหรูหรา และมีส่วนนูน (Plateau) ด้านหลังที่ผ่านการขึ้นรูปอย่างแม่นยำทั้งสองด้านเพื่อเป็นที่อยู่ของกล้อง ลำโพง และชิป Apple silicon ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ให้กับแบตเตอรี่เพื่อการใช้งานที่ยาวนานตลอดวัน ดีไซน์ที่บางเฉียบนี้ยังมาพร้อมปุ่ม Action เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดายเพียงกดปุ่ม และปุ่มควบคุมกล้อง (Camera Control) เพื่อเปิดกล้องหรือใช้งาน Visual Intelligence ได้อย่างรวดเร็ว²

จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้วที่สวยงามมาพร้อม ProMotion ที่มีอัตรารีเฟรชแบบปรับได้สูงสุดถึง 120Hz เพื่อการเลื่อนที่ลื่นไหลและกราฟิกที่น่าทึ่ง จอภาพแบบติดตลอด (Always-On display) จะแสดงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว และจะปรับลดลงเหลือ 1Hz อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อไม่ใช้งาน iPhone Air ยังใช้งานกลางแจ้งได้ง่ายด้วยความสว่างสูงสุด 3,000 นิต ซึ่งสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone และมีคอนทราสต์ในที่กลางแจ้งดีขึ้น 2 เท่า

iPhone Air ยังเปิดตัวกระจกด้านหน้า Ceramic Shield 2 ซึ่งแข็งแกร่งกว่ากระจกสมาร์ทโฟนหรือเซรามิกแก้วใดๆ พร้อมสารเคลือบที่ออกแบบโดย Apple เพื่อความทนทานต่อรอยขีดข่วนที่ดีขึ้น 3 เท่า และปรับปรุงการป้องกันแสงสะท้อนเพื่อลดแสงจ้า และเป็นครั้งแรกที่ Ceramic Shield ถูกนำมาใช้ปกป้องด้านหลังของ iPhone รวมถึงส่วนนูนของกล้อง ทำให้ทนทานต่อการแตกร้าวได้ดีกว่ากระจกหลังของรุ่นก่อนถึง 4 เท่า เมื่อรวมกับกรอบไทเทเนียมที่แข็งแกร่ง ทำให้ iPhone Air มีความทนทานเกินกว่าข้อกำหนดด้านความแข็งแรงต่อการโค้งงอที่เข้มงวดของ Apple

ระบบกล้องทรงพลัง

iPhone Air เปิดตัวกล้องหน้า Center Stage ใหม่หมดจดที่ยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอ กล้องหน้านี้ใช้เซ็นเซอร์ทรงสี่เหลี่ยมเป็นครั้งแรกใน iPhone ทำให้มีมุมมองที่กว้างและถ่ายภาพได้สูงสุด 18MP ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องหมุน iPhone เพื่อถ่ายเซลฟี่แนวนอนอีกต่อไป โดยสามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนในขณะที่ถือ iPhone ในแนวตั้ง สำหรับการถ่ายภาพกลุ่ม Center Stage จะใช้ AI เพื่อขยายมุมมองโดยอัตโนมัติและสามารถหมุนจากแนวตั้งเป็นแนวนอนเพื่อให้ทุกคนอยู่ในเฟรมได้ กล้องหน้า Center Stage ยังช่วยให้ถ่ายวิดีโอ 4K HDR ได้นิ่งสุดๆ และผู้ใช้ยังสามารถบันทึกวิดีโอจากกล้องหน้าและหลังพร้อมกันด้วยฟีเจอร์ Dual Capture ซึ่งเหมาะสำหรับการบันทึกภาพตัวเองและโลกรอบตัวไปพร้อมๆ กัน

ระบบกล้อง Fusion 48MP ใหม่ที่ใช้งานได้หลากหลายมอบเลนส์เทียบเท่า 4 ตัวในกระเป๋าของคุณ เลนส์หลักที่ออกแบบมาเป็นพิเศษรองรับทางยาวโฟกัสยอดนิยมที่ 28 มม. และ 35 มม. ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกในการจัดเฟรมภาพมากขึ้น และเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ขนาดใหญ่ 2.0µm พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Sensor-shift (OIS) ทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้ใช้ยังสามารถซูมเข้าใกล้วัตถุได้ด้วยเลนส์เทเลโฟโต้ 2 เท่าคุณภาพระดับออปติคัล ที่มาพร้อม Photonic Engine ที่อัปเดตใหม่ ซึ่งช่วยเก็บรายละเอียดและสีสันที่สมจริงยิ่งขึ้น

ไปป์ไลน์การประมวลผลภาพแบบใหม่ที่สร้างขึ้นสำหรับ iPhone Air ช่วยให้ถ่ายภาพบุคคลเจเนอเรชันถัดไปพร้อม Focus Control ในระดับเดียวกับระบบกล้องหลายตัว โดยจะบันทึกข้อมูลความลึกโดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนภาพถ่ายเป็นภาพบุคคลได้ในภายหลังในแอปรูปภาพ

ขับเคลื่อนด้วย Apple Silicon

ดีไซน์ของ iPhone Air เกิดขึ้นได้ด้วย Apple silicon เท่านั้น ชิปประสิทธิภาพสูงอย่าง A19 Pro, N1 และ C1X ทำให้ iPhone Air เป็น iPhone ที่ประหยัดพลังงานที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา

  • A19 Pro: มาพร้อม CPU 6-core ใหม่ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานสำหรับงานที่ผู้ใช้ทำทุกวัน ทำให้เป็น CPU ที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน GPU 5-core มีสถาปัตยกรรมที่อัปเกรดใหม่ มอบประสบการณ์การเล่นเกมบนมือถือไปอีกระดับ
  • N1: ชิปเครือข่ายไร้สายที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งรองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Personal Hotspot และ AirDrop
  • C1X: โมเด็มเซลลูลาร์ใหม่ที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งเร็วกว่า C1 ถึง 2 เท่า และใช้พลังงานน้อยลง 30% ทำให้เป็นโมเด็มที่ประหยัดพลังงานที่สุดใน iPhone

แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน

ด้วย Apple silicon ที่ล้ำสมัย สถาปัตยกรรมภายในที่เพิ่มพื้นที่ให้แบตเตอรี่สูงสุด และการปรับแต่งซอฟต์แวร์ ทำให้ iPhone Air มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันอย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ โหมดพลังงานแบบปรับได้ (Adaptive Power Mode) ใหม่ใน iOS 26 ยังช่วยเรียนรู้การใช้งานแบตเตอรี่ของผู้ใช้และคาดการณ์เมื่อแบตเตอรี่ใกล้จะหมด เพื่อประหยัดพลังงานอย่างชาญฉลาดให้เพียงพอตลอดทั้งวัน

Apple iPhone Air iOS Home Screen 250909 inline.jpg.medium

มาพร้อม iOS 26 และขุมพลัง Apple Intelligence

iOS 26 ยกระดับประสบการณ์ iPhone ด้วยดีไซน์ใหม่ที่สวยงาม ความสามารถของ Apple Intelligence อันทรงพลัง และการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับแอปที่ผู้ใช้พึ่งพาอยู่ทุกวัน ดีไซน์ใหม่พร้อม Liquid Glass ทำให้แอปและระบบดูมีชีวิตชีวาและน่าใช้ยิ่งขึ้น Apple Intelligence สามารถแปลข้อความและเสียงได้ทันทีด้วย Live Translation ช่วยให้ผู้ใช้สื่อสารข้ามภาษาในแอป Messages, FaceTime และ Phone ได้⁵

อุปกรณ์เสริมใหม่ที่สวยงาม

Apple กำลังเปิดตัวระบบนิเวศของอุปกรณ์เสริมใหม่เพื่อเติมเต็มดีไซน์ที่ปฏิวัติวงการของ iPhone Air:

Apple iPhone Air Case with MagSafe Frost White 250909 inline.jpg.medium
  • iPhone Air Case with MagSafe: เคสโปร่งแสงบางเฉียบ มีให้เลือก 2 สี (frost และ shadow)
Apple iPhone Air Bumper 250909 inline.jpg.medium
  • iPhone Air Bumper: เคสแบบขอบที่บางและเบา มีให้เลือก 4 สีที่เข้ากัน
Apple iPhone Air Crossbody Strap 250909 inline.jpg.medium
  • Crossbody Strap: สายคล้องคอที่ทำจากเส้นด้ายรีไซเคิล 100% ปรับความยาวได้ง่าย มีให้เลือก 10 สี
Apple iPhone Air MagSafe Battery 250909 inline.jpg.medium
  • iPhone Air MagSafe Battery: แบตเตอรี่เสริม MagSafe ดีไซน์บางเบาที่ติดเข้ากับด้านหลังของเครื่องได้อย่างแนบสนิท

iPhone Air และสิ่งแวดล้อม

iPhone Air ผลิตโดยใช้วัสดุรีไซเคิล 35% รวมถึงไทเทเนียมรีไซเคิล 80% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone และโคบอลต์รีไซเคิล 100% ในแบตเตอรี่ พอร์ต USB-C ไทเทเนียมใหม่ผลิตด้วยการพิมพ์ 3 มิติเพื่อให้บางและแข็งแรงขึ้น บรรจุภัณฑ์เป็นกระดาษที่ใช้เยื่อไม้ 100% และสามารถรีไซเคิลได้ง่าย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผน Apple 2030 ที่จะทำให้บริษัทมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในสิ้นทศวรรษนี้


Apple เปิดตัว iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max: รุ่น Pro ที่ทรงพลังและล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Apple iPhone 17 Pro camera close up 250909 big.jpg.medium

ขับเคลื่อนด้วยชิป A19 Pro ในดีไซน์ใหม่หมดจด iPhone 17 Pro มอบประสิทธิภาพ ระบบกล้อง และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ iPhone

คูเปอร์ติโน, แคลิฟอร์เนีย – วันนี้ Apple ได้เปิดตัว iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่สุดโดดเด่น ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญด้านประสิทธิภาพ ทั้งสองรุ่นขับเคลื่อนด้วยชิป A19 Pro ซึ่งเป็นชิปที่ทรงพลังและประหยัดพลังงานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone ทำให้สามารถใช้งานระบบกล้องสุดล้ำ เล่นเกมมือถือในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และใช้งาน Apple Intelligence ได้อย่างเต็มศักยภาพ

Apple iPhone 17 Pro cosmic orange 250909 inline.jpg.medium

ตัวเครื่องสร้างขึ้นจากอะลูมิเนียม unibody ชิ้นเดียวที่แข็งแกร่ง น้ำหนักเบา และนำความร้อนได้ดีเยี่ยม ภายในมีระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งช่วยให้ iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มีประสิทธิภาพสูงที่สุดและยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างมหาศาล

ระบบกล้องหลังประกอบด้วยกล้อง Fusion ความละเอียด 48MP จำนวน 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก, อัลตร้าไวด์ และเทเลโฟโต้รุ่นใหม่ ซึ่งให้ประสบการณ์เทียบเท่าการมีเลนส์ระดับโปรถึง 8 ตัว รวมถึงการซูมแบบออปติคัลที่ไกลที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone ถึง 8 เท่า ในขณะที่กล้องหน้า Center Stage ความละเอียด 18MP ก็ยกระดับการถ่ายเซลฟี่ไปอีกขั้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์วิดีโอระดับโปรสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์โดยเฉพาะ เช่น ProRes RAW, Apple Log 2 และ genlock ซึ่งทำให้ iPhone สามารถทำงานร่วมกับโปรดักชันขนาดเล็กและใหญ่ได้อย่างไร้รอยต่อ

กระจกด้านหน้าเป็น Ceramic Shield 2 ที่ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น 3 เท่า และเป็นครั้งแรกที่ Apple นำ Ceramic Shield มาใช้ปกป้องกระจกด้านหลังของ iPhone ด้วย

Apple iPhone 17 Pro color lineup 250909 inline.jpg.medium

iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มีให้เลือกใน 3 สีใหม่ที่สวยงาม ได้แก่ น้ำเงินเข้ม (Deep Blue), ส้มคอสมิก (Cosmic Orange) และเงิน (Silver) โดยจะเริ่มเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 12 กันยายน และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 19 กันยายน

“iPhone 17 Pro คือ iPhone ที่ทรงพลังที่สุดที่เราเคยสร้างมา ด้วยดีไซน์ใหม่ที่น่าทึ่งซึ่งถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดจากภายในสู่ภายนอกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดและยืดอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้นอย่างมหาศาล” Greg Joswiak, รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดทั่วโลกของ Apple กล่าว “ด้วยกล้อง Fusion 48MP สามตัว ประสบการณ์ใหม่จากกล้องหน้า Center Stage และฟีเจอร์วิดีโอระดับโปร ทำให้โอกาสในการสร้างสรรค์นั้นไร้ขีดจำกัด iPhone 17 Pro ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการสมาร์ทโฟน และเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด”

ดีไซน์ใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ยั่งยืน

ดีไซน์ตัวเครื่อง unibody แบบอะลูมิเนียมขัดเงาผลิตจากอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 เกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ ซึ่งมีน้ำหนักเบาและให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone โครงสร้างภายในใหม่มาพร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่ออกแบบโดย Apple เพื่อช่วยกระจายความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น ทำให้ชิป A19 Pro สามารถทำงานได้เต็มกำลังอย่างต่อเนื่อง ความร้อนจะถูกส่งผ่านไปยังตัวเครื่องอะลูมิเนียมและกระจายออกไปอย่างทั่วถึง ช่วยให้ตัวเครื่องยังคงจับถือได้สบายแม้ใช้งานหนัก

ดีไซน์ unibody นี้ยังเพิ่มพื้นที่สำหรับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น เมื่อรวมกับประสิทธิภาพของชิป A19 Pro และการจัดการพลังงานขั้นสูงของ iOS 26 ทำให้ iPhone 17 Pro Max มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ iPhone นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังรองรับการชาร์จเร็ว 50% ใน 20 นาที เมื่อใช้อะแดปเตอร์ USB-C กำลังไฟสูงอย่าง Dynamic Power Adapter 40W ใหม่ของ Apple

จอภาพที่งดงามและความทนทานระดับแนวหน้า

iPhone 17 Pro มาในขนาด 6.3 นิ้ว และ 6.9 นิ้ว พร้อมจอภาพ Super Retina XDR ที่ได้รับการปกป้องโดย Ceramic Shield 2 ซึ่งแข็งแกร่งกว่ากระจกสมาร์ทโฟนทุกรุ่น และมาพร้อมการเคลือบผิวแบบใหม่ที่ออกแบบโดย Apple ทำให้ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น 3 เท่า และลดแสงสะท้อนได้ดียิ่งขึ้น จอภาพอันงดงามนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี ProMotion สูงสุด 120Hz, คุณสมบัติ Always-On และความสว่างสูงสุดขณะอยู่กลางแจ้งที่ 3000 nits ซึ่งสูงที่สุดเท่าที่เคยมีบน iPhone และเป็นครั้งแรกที่ Ceramic Shield ถูกนำมาใช้กับกระจกด้านหลัง ทำให้ทนต่อการแตกร้าวได้ดีกว่ารุ่นก่อนถึง 4 เท่า

A19 Pro: ชิป iPhone ที่ทรงพลังและประหยัดพลังงานที่สุด

A19 Pro คือชิป iPhone ที่มีความสามารถสูงสุดของ Apple เมื่อทำงานร่วมกับ Vapor Chamber จะทำให้ iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มีประสิทธิภาพการทำงานต่อเนื่องดีกว่ารุ่นก่อนถึง 40% เหมาะสำหรับการเล่นเกม การตัดต่อวิดีโอ และการรันโมเดลภาษาขนาดใหญ่บนเครื่อง มาพร้อม CPU 6-core ที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน และ GPU 6-core ที่มี Neural Accelerators ในตัวแต่ละคอร์ ช่วยให้การประมวลผลกราฟิกสวยงามน่าทึ่ง และสามารถเล่นเกมระดับ AAA อย่าง Arknights: Endfield ด้วย Ray Tracing ที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์และเฟรมเรตที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ iPhone 17 ยังมาพร้อม N1 ชิปเน็ตเวิร์กไร้สายที่ออกแบบโดย Apple รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของคุณสมบัติต่างๆ เช่น Personal Hotspot และ AirDrop

ระบบกล้องระดับโปร ปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์

iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มาพร้อมระบบกล้องที่ดีที่สุดของ Apple ด้วยเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เทียบเท่ากับการมีเลนส์โปร 8 ตัวในกระเป๋าของคุณ

  • กล้องหลัง Fusion 48MP สามตัว: เก็บภาพได้คมชัดและมีรายละเอียดสูงขึ้น กล้อง Telephoto 48MP รุ่นใหม่ใช้ดีไซน์ tetraprism เจเนอเรชันถัดไป พร้อมเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น 56% ทำให้ภาพคมชัดขึ้นในที่แสงจ้าและเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้นในที่แสงน้อย
  • ซูมไกลที่สุด: ซูมแบบออปติคัล 4x ที่ระยะ 100 มม. เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคล และซูมแบบออปติคัล 8x ที่ระยะ 200 มม. ซึ่งยาวที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone ช่วยให้เข้าถึงวัตถุได้ไกลขึ้น และมีตัวเลือกในการสร้างสรรค์มากขึ้น
  • Photonic Engine ที่อัปเดต: ใช้ Machine Learning เพื่อรักษารายละเอียดที่เป็นธรรมชาติ ลด Noise และให้ความแม่นยำของสีที่ดีขึ้นอย่างมาก และสามารถซูมดิจิทัลได้สูงสุดถึง 40x
  • กล้องหน้า Center Stage ใหม่: เป็นครั้งแรกที่ใช้เซ็นเซอร์กล้องหน้าทรงสี่เหลี่ยมบน iPhone ให้มุมมองที่กว้างขึ้นและความละเอียดสูงสุด 18MP ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนในขณะที่ถือโทรศัพท์ในแนวตั้ง และเมื่อถ่ายเซลฟี่แบบกลุ่ม AI จะขยายมุมมองและหมุนภาพจากแนวตั้งเป็นแนวนอนโดยอัตโนมัติเพื่อให้ทุกคนอยู่ในเฟรม นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอ 4K HDR ที่นิ่งเป็นพิเศษ และบันทึกวิดีโอจากกล้องหน้าและหลังพร้อมกันได้ด้วยฟีเจอร์ Dual Capture

ขีดสุดแห่งวิดีโอระดับโปร

iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับ ProRes RAW, Log 2 และ genlock ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ซิงโครไนซ์วิดีโอจากกล้องหลายตัวได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างสรรค์ผลงานระดับมืออาชีพโดยไม่ต้องเสียเวลาปรับเฟรมต่อเฟรมด้วยตนเอง

eSIM: การเชื่อมต่อที่ยืดหยุ่น ปลอดภัย และสะดวกสบาย

eSIM เป็นซิมดิจิทัลที่ให้ความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และการเชื่อมต่อที่ราบรื่นกว่าซิมการ์ดจริง โดย iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max รุ่นที่รองรับเฉพาะ eSIM จะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ ซึ่งรุ่นเหล่านี้จะมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น โดยใช้พื้นที่ของถาดซิมเดิม ทำให้สามารถเล่นวิดีโอได้นานขึ้นอีก 2 ชั่วโมง (สูงสุด 39 ชั่วโมง)

มาพร้อม iOS 26 และ Apple Intelligence

iOS 26 ยกระดับประสบการณ์ iPhone ด้วยดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า Liquid Glass และความสามารถของ Apple Intelligence ที่ทรงพลัง เช่น Live Translation สำหรับการแปลข้อความและเสียงแบบเรียลไทม์ และการอัปเดต Visual Intelligence ที่ให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลจากภาพหน้าจอได้ทันที

อุปกรณ์เสริมใหม่ที่สวยงาม

  • เคส TechWoven: ทำจากผ้าทอหลากสีสัน ให้มิติและความลึกของสีที่สวยงาม ทนทานต่อรอยขีดข่วนและคราบสกปรก
  • เคสใสพร้อม MagSafe: ผลิตจากโพลีคาร์บอเนตใสและวัสดุที่ยืดหยุ่น พร้อมเคลือบสารกันรอย
  • เคสซิลิโคนพร้อม MagSafe: มีให้เลือก 6 สีสันสวยงาม
  • สายคล้อง Crossbody Strap: ใช้คู่กับเคส TechWoven และเคสซิลิโคน ผลิตจากเส้นด้ายรีไซเคิล 100% ปรับความยาวได้ง่ายด้วยแม่เหล็ก

iPhone 17 Pro กับสิ่งแวดล้อม

iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max ผลิตโดยใช้วัสดุรีไซเคิล 30% รวมถึงโคบอลต์รีไซเคิล 100% ในแบตเตอรี่และทองคำรีไซเคิล 100% ในแผงวงจรพิมพ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผน Apple 2030 ที่จะทำให้บริษัทมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในสิ้นทศวรรษนี้ บรรจุภัณฑ์ยังทำจากเยื่อไม้ 100% และสามารถรีไซเคิลได้ง่าย

เปิดตัวกันไปแล้วสำหรับ iPhone 17 ทั้ง 4 รุ่น โดยเริ่มความจุเริ่มต้นที่ 256 GB และสูงสุด 2 TB

256 GB512 GB1 TB2 TB
iPhone 1729,90037,900
iPhone 17 Air39,90047,90055,900
iPhone 17 Pro43,90051,90059,900
iPhone 17 Pro Max48,90056,90064,90080,900

โดยในประเทศไทยยังคงได้รับสิทธิระดับแรก นั้นคือจะเปิดทำการจองวันที่ 12 กันยายนและรับเครื่องในวันที่ 19 กันยายน โดยใช้เวลาเพียง 7 วันในการรอเครื่องล็อตแรก โดยสีใหม่ของ iPhone Pro ที่เป็นสัมน้ำเงินนั้น มีการล้อถึงการเมืองในช่วงเวลาเดียวกันได้อีกด้วย

  • โดยหากแนะนำซื้อ Iphone 17 ไปเลยเพราะอัปเกรดจาก iphone 16 หลายประการ
  • ความจุ 128>256
  • กล้องหน้า 12>18
  • จอ 60>120
  • กันสั่นกล้องหน้า 16 ไม่มี / 17 มี
  • จอ 6.1>6.3
  • ราคาเท่าเดิม!!

ราคาเท่าเดิม!!

โดยหากเทียบราคารุ่นความจำเริ่มต้นต่อสัดส่วนราคา สัดส่วนจะเพิ่ม 256 GB ไป 512 GB จะโดด 8 พันและ 2 เท่าใน 1 TB แรกแต่สัสส่วนของ 2 TB ความจะโดด 32,000 กลับคิดเพิ่มมากถึง 40,100

256 GB512 GB1 TB2 TB
iPhone 1729,900+8,000
iPhone 17 Air39,900+8,000+16,000
iPhone 17 Pro43,900+8,000+16,000
iPhone 17 Pro Max48,900+8,000+16,000+40,100

เพราะตัว iOS ใหม่นั้นมีระบบการรองรับ Harddrive ภายนอกแล้วแทบจะไม่ต้องเพิ่มความจุภายในมากเกิน 1 TB เลยเพราะไม่คุ้ม โดยในกลุ่มที่คุ้มมาที่สุดคือตัวเริ่มต้นจากเดิมจะให้มาแค่ 128 GB เท่านั้น โดยหากคุณใช้งานถ่ายภาพมากจริงๆ สามารถใช้ 256 GB เพื่อถ่ายภาพ RAW ไว้ก่อนเพื่อความไว + SSD HD Drive ทำการโยนไฟล์ออกมาเพื่อนำไปตัดต่อหรือนำออกจากเครื่องมือถือไปใช้ได้ทันที ถ้าหากคุณมีงบเหลือ 8 พัน ที่จะเอาไว้อัพความจุเครื่องสู้เอาไปซื้อ SSD 8 พันบาท ที่ความจุ 4 TB ได้เลย!

download 8.png

shoppee >SANDISK Extreme SDSSDE61 Portable SSD>

Lazada >SANDISK Extreme SDSSDE61 Portable SSD>

และมีการประกาศอัปเกรด iOS 26 พร้อมกันในวันที่ 15 กันยายน 2568

โดยกิมมิกที่ยกมาชัดเจนในเรื่อง liquid glass ใน UI/UX ใหม่ของ iOS 26 นั้นมีการหยิบโยงกับตัว Apple Store ที่เน้นการใช้กระจกจำนวนมากเพื่อแสดงถึงการโปร่งใส่ และหนึ่งในนั้นคือ Apple Store Thailand สาขาหน้า Central World มาโปรโมทก่อนเข้างานอีกด้วย

โดเนท

[kofi]

Simscolony
Simscolonyhttp://simscolony.com
ซิมส์โคโลนี

Latest