วงการเกมกำลังสั่นสะเทือนจากดีลประวัติศาสตร์มูลค่า 1.5 ล้านล้านบาท ที่อาจทำให้ Electronic Arts (EA) ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มทุนซาอุดีอาระเบีย นำโดย Public Investment Fund (PIF) การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลแค่เกมฟอร์มยักษ์อย่าง EA FC หรือ Apex Legends แต่กำลังสร้างความหวาดหวั่นให้กับชุมชนผู้เล่น The Sims อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะนี่อาจไม่ใช่แค่การเปลี่ยนเจ้าของ แต่เป็น “วันพิพากษา” ที่อาจจะลบเลือนทุกสิ่งที่เรียกว่า “อิสรภาพ” ทั้งในเกมและนอกเกม ออกไปจนหมดสิ้น
The Sims: ไม่ใช่แค่เกม แต่คือโลกคู่ขนานที่ขับเคลื่อนด้วยผู้เล่น
หากจะนิยาม The Sims ให้ถูกต้อง มันไม่ใช่แค่ “เกมจำลองชีวิต” ที่ EA สร้างขึ้น แต่เป็น “จักรวาลคู่ขนาน” ที่มีผู้เล่นเป็นผู้สร้างสรรค์อย่างแท้จริง EA อาจเป็นผู้สร้าง “ผืนผ้าใบ” แต่คอมมูนิตี้คือผู้ที่แต่งแต้มสีสันให้มันมีชีวิตชีวาผ่าน “ม็อด (Mod)” และเหล่ากลุ่มผู้สร้างสรรค์ของต่างๆในเกท “ครีเอเตอร์ (Creater)” กำลังถูกสั่นคลอนด้วยการขายกิจการไปสู่นายทุนใหม่
ม็อดคือเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยง The Sims ให้สดใหม่อยู่เสมอ มันคือเครื่องมือที่ทำให้ผู้เล่นสามารถทลายข้อจำกัดของเกมและสร้างเรื่องราวในแบบของตัวเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม, เฟอร์นิเจอร์สวยงาม ไปจนถึงม็อดที่เปลี่ยนระบบการเล่นทั้งหมด
และในบรรดาม็อดนับแสนนับล้านชิ้น มีม็อดบางประเภทที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของ “เสรีภาพขั้นสูงสุด” ใน The Sims นั่นคือม็อดสำหรับผู้ใหญ่ (Adult Mods) อย่าง WickedWhims ที่เพิ่มระบบเพศสัมพันธ์และความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งสมจริงเข้ามาในเกม หรือม็อดสายดาร์กที่เพิ่มความรุนแรง การฆาตกรรม และเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง แม้ม็อดเหล่านี้จะไม่ใช่สำหรับทุกคน แต่มันคือเครื่องยืนยันว่า The Sims เป็นพื้นที่ที่ผู้เล่นสามารถเล่าเรื่องราวได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่สวยงามหรือมืดหม่นก็ตาม
สงครามกวาดล้างม็อด: เมื่ออิสรภาพของผู้เล่นคือเป้าหมายถัดไป
หากการควบคุมภาพลักษณ์ในสื่อกระแสหลักคือด่านแรก สมรภูมิต่อไปคือการกวาดล้างภายในตัวเกมเอง นั่นคือการโจมตี “หัวใจและจิตวิญญาณ” ของคอมมูนิตี้อย่าง “ม็อด (Mod)”
ม็อดอย่าง WickedWhims ที่เพิ่มมิติความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่ หรือม็อดสายดาร์กที่เพิ่มความรุนแรง คือสัญลักษณ์ของอิสรภาพขั้นสูงสุดที่ผู้เล่นสามารถสร้างสรรค์ได้ แต่สำหรับมุมมองของผู้บริหารที่ยึดถือกฎระเบียบเข้มงวด ม็อดเหล่านี้คือ “เนื้อหาที่ไม่สามารถควบคุมได้” และอาจทำลายภาพลักษณ์” ของแบรนด์
หากมีการออกนโยบาย “กวาดล้างม็อด” อย่างจริงจัง เราอาจได้เห็นการอัปเดตข้อตกลงผู้ใช้งานเพื่อแบนม็อด 18+ อย่างเป็นทางการ การปิดกั้นช่องทางเทคนิคที่ทำให้ลงม็อดได้ง่าย หรือแม้กระทั่งการกดดันแพลตฟอร์มต่างๆ ให้ลบม็อดเหล่านี้ทิ้ง นี่คือการตัดแขนตัดขาคอมมูนิตี้ และเปลี่ยนเกมที่เคยไร้ขีดจำกัด ให้กลายเป็นสวนสัตว์ในกรงทอง
การปะทะกันของสองโลก: วัฒนธรรมเสรีนิยม VS กฎระเบียบที่เข้มงวด
การเข้ามาของกลุ่มทุน PIF จากซาอุดีอาระเบีย คือการนำโลกสองใบที่แตกต่างกันสุดขั้วมาชนกันโดยตรง
- โลกของ The Sims: เฉลิมฉลองความหลากหลาย LGBTQ+, เปิดกว้างให้ผู้เล่นสร้างสรรค์เนื้อหาได้ทุกรูปแบบ แม้แต่เนื้อหา 18+ ผ่านม็อด
- โลกของผู้ถือหุ้นใหม่: ตั้งอยู่บนบรรทัดฐานทางสังคมและศาสนาที่เข้มงวด ซึ่งมีมุมมองต่อต้านประเด็น LGBTQ+ และเนื้อหาที่ล่อแหลมทางเพศและความรุนแรงอย่างชัดเจน
เมื่อผู้มีอำนาจตัดสินใจคนใหม่ มีแนวคิดที่ขัดแย้งกับแก่นของผลิตภัณฑ์โดยสิ้นเชิง อนาคตของ The Sims ก็แขวนอยู่บนเส้นด้ายทันที
ฉากทัศน์แห่งการล่มสลาย: เมื่อการควบคุมมาถึงหน้าประตูบ้าน
ภายใต้การบริหารใหม่ที่มุ่งเน้นผลกำไรและอาจต้องสอดคล้องกับค่านิยมของเจ้าของ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่จะทำลาย The Sims ที่เรารู้จักไปตลอดกาล:
- การ “ชำระล้าง” เนื้อหาในเกม (Official Content Purge): ขั้นแรกคือการเซ็นเซอร์เนื้อหาที่เป็นทางการ ฟีเจอร์ที่สนับสนุน LGBTQ+ อาจถูกลดทอนหรือถอดถอนออกไป เพื่อให้เกม “ปลอดภัย” และสามารถวางขายได้ในตลาดอนุรักษ์นิยม การกระทำนี้คือการทรยศต่อผู้เล่นกลุ่มใหญ่ที่รักเกมนี้เพราะความเปิดกว้าง
- สงครามกวาดล้างม็อด (The Great Mod Crackdown): นี่คือขั้นที่น่ากลัวที่สุด EA อาจถูกกดดันให้อัปเดตข้อตกลงผู้ใช้งาน (Terms of Service) เพื่อ แบนม็อดที่มีเนื้อหาล่อแหลมทางเพศ (เช่น WickedWhims) และม็อดที่มีความรุนแรงอย่างเป็นทางการ พวกเขาอาจปรับปรุงโค้ดของเกมเพื่อทำให้การลงม็อดทำได้ยากขึ้น หรือร่วมมือกับแพลตฟอร์มโฮสต์ม็อดอย่าง CurseForge เพื่อลบม็อดที่ไม่พึงประสงค์ออกไป นี่คือการตัดแขนตัดขาคอมมูนิตี้และพรากอิสรภาพในการสร้างสรรค์ของผู้เล่นไปโดยตรง
- เปลี่ยนเกมให้เป็นเครื่องปั๊มเงิน: เมื่อม็อดฟรีที่เพิ่มคอนเทนต์ให้เกมถูกจำกัด ช่องว่างนั้นจะถูกแทนที่ด้วย “การหั่นเกม” และอาจจะมี “ระบบสุ่ม/กาชา” เราอาจได้เห็นการขาย Kits และ DLC ขนาดเล็กถี่ยิบกว่าเดิม เพื่อให้ผู้เล่นต้อง “จ่ายเงิน” ซื้อในสิ่งที่พวกเขาเคยได้รับฟรีจากคอมมูนิตี้
โดยผลกระทบเล็กน้อยในโลกที่ใช้กฏหมายพิเศษตามหลักศาสนาและการแบน The sims เองก็ไม่รอดจากผลนั้นดังที่เคยเกิดขึ้นใน The sims 2 ถูกเปลี่ยนปกใหม่ นำภาพผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยออก และเปลี่ยนเป็นซิมส์ชายล้วนๆแทน
 |  |
และล่าสุดกับ The sims 4 Wedding กับภาพปกของ LGBTQ หญิงรักหญิงถูกรัสเซียแบนจน
The Sims The Movie อาจจะไม่เกิดขึ้น!
จากจอเงินสู่ความว่างเปล่า: The Sims Movie ฝันที่อาจไม่เป็นจริง
ข่าวที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับชาวซิมเมอร์ในช่วงที่ผ่านมา คือโปรเจกต์ “The Sims: The Movie” ที่ได้บริษัท LuckyChap ของดาราสาวชื่อดัง Margot Robbie มาเป็นหัวเรือใหญ่ในการสร้าง นี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่จะนำเสนอโลกแห่งความโกลาหล ความสร้างสรรค์ และความหลากหลายอันเป็นเอกลักษณ์ของ The Sims สู่สายตาผู้ชมทั่วโลก
แต่ตอนนี้ ความฝันนั้นอาจจะกำลังถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย ภายใต้เงาของเจ้าของใหม่ การตัดสินใจเชิงธุรกิจที่ดูเหมือนจะเดินหน้าไปแล้ว อาจถูกนำมา “ทบทวนและตัดสินใจใหม่” โดยนายทุนกลุ่มใหม่ทั้งหมด และเหตุผลอาจไม่ใช่แค่เรื่องของผลกำไร
ลองจินตนาการดูว่าภาพยนตร์ The Sims จะเล่าเรื่องอะไร? แน่นอนว่ามันต้องเต็มไปด้วยตัวละครที่มีความหลากหลายทางเพศ, ครอบครัวที่ไม่จำกัดรูปแบบ, และการแสดงออกถึงตัวตนอย่างเสรี ซึ่งทั้งหมดนี้คือ “ภาพลักษณ์” ที่อาจขัดแย้งโดยตรงกับค่านิยมของผู้ถือหุ้นรายใหม่ การสั่งระงับโปรเจกต์ภาพยนตร์จึงอาจไม่ใช่แค่การตัดงบ แต่คือการ “ควบคุมสาร” (Message Control) เพื่อป้องกันไม่ให้ “อุดมการณ์” ของ The Sims แพร่หลายออกไปในวงกว้าง นี่คือด่านแรกของการสกัดกั้นอิสรภาพ ที่เกิดขึ้นนอกตัวเกม
ไม่เพียงแค่นั้น EA ยังมี EA Music
EA Music คือแผนกเพลงของ Electronic Arts (EA) ที่รับผิดชอบการดูแลด้านดนตรี, การประพันธ์เพลงต้นฉบับ, เพลงประกอบ และการใช้ดนตรีในส่วนต่างๆ ของเกม, การตลาด, กิจกรรม และความร่วมมือต่างๆ แผนกนี้จะดูแลเพลงประกอบคลาสสิกจากเกมชื่อดังอย่าง Madden NFL, FIFA และ Need for Speed รวมถึงเพลงธีมและเพลงต้นฉบับจากเกมอย่าง Battlefield, Mass Effect และ Dragon Age และเกมอื่นๆ ในเครือ
- ดูแลดนตรีในเกม: EA Music รับผิดชอบการเลือก, การประพันธ์ และการรวมเพลงประกอบในเกมของ EA
- เพลงประกอบต้นฉบับ: พวกเขาสร้างสรรค์เพลงต้นฉบับและธีมหลักสำหรับเกมต่างๆ ของ EA
- เพลงประกอบเกม: คุณสามารถหาฟังเพลงประกอบจากเกมดังๆ ของ EA เช่น Madden, FIFA, Need for Speed, Battlefield ได้จากช่องทางต่างๆ
- การตลาดและความร่วมมือ: EA Music มีส่วนร่วมในการใช้ดนตรีสำหรับแคมเปญการตลาด, งานอีเวนต์ และความร่วมมือต่างๆ ของ EA
แพลตฟอร์มที่คุณสามารถหาฟังเพลงของ EA Music ได้:
- Apple Music: เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมเพลงประกอบจากเกมต่างๆ ของ EA รวมถึงเพลย์ลิสต์พิเศษ
- X (Twitter): สามารถติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก EA Music ได้ที่บัญชีอย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์ม X
- Spotify: มีการรวมเพลงจากเกมต่างๆ ของ EA เช่น อัลบั้ม “Music From EA Games” ที่รวบรวมเพลงจากเกมต่างๆ
เราอาจจะสูญเสียผลงานเพลงบางส่วน เช่น เพลงภาษาซิมลิก และผลงานเพลงเฉพาะทางเนื่องจากนายทุนใหม่มีความสอดคล้องกับการร้องเพลงในภาษามนุษย์มากกว่าภาษาจากในเกม
ไม่ใช่แค่การล่มสลายเพราะเหตุทางการเงิน แต่คือการล่มสลายทางจิตวิญญาณ
การล่มสลายของ The Sims ที่กำลังจะมาถึง อาจไม่ใช่การที่เกมขาดทุนหรือปิดตัวลง แต่คือ การตายของจิตวิญญาณ มันคือการที่ “โลกจำลองแห่งอิสรภาพ” ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น “ผลิตภัณฑ์ที่ถูกควบคุม” ซึ่งทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบที่เจ้าของคนใหม่ขีดไว้
ดีลมูลค่า 1.5 ล้านล้านบาทนี้ อาจช่วยต่อลมหายใจให้กับ EA ในฐานะบริษัท แต่สำหรับผู้เล่น The Sims มันอาจเป็นราคาที่ต้องจ่ายด้วยอิสรภาพ ความหลากหลาย และความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้เกมนี้เป็นตำนานมานานกว่า 20 ปี คำถามสำคัญในวันนี้จึงไม่ใช่แค่ EA จะสร้างอะไรให้เราเล่นต่อไป แต่คือ “พวกเขาจะอนุญาตให้เราสร้างอะไรในโลกของเราได้อีกบ้าง?”
ถึงแม้ว่าจะพึ่งครบรอบ 25 ปีไปแต่ก็อาจจะไม่มีปีต่อไปให้ฉลองกันแล้ว ทั้งความไม่ชัดเจนของตัวบริษัทิและเป็นเกมที่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมาที่สุด ต้องรอดูว่าจะมีการเปลี่ยนที่มากน้อยขนาดไหนเพราะตำนานก็มีวันจบลงได้
- บทความนี้เป็นเพียงการรวบรวมข้อมูลจากข่าวสารของบริษัทิ Electronic Arts เพื่อสะท้อนความไม่มั่นคงของแฟรนไซต์ The Sims ที่หากถูกเปลี่ยนมืออาจมีการเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับความต้องการของเจ้าของกิจการคนใหม่ มิได้มีเจตนาทำลายชื่อเสียงของบริษัทิและตัวเกมแต่อย่างใด